ลงทุน Jitta Ranking ตอนที่ 2 สหรัฐอเมริกา...มหาอำนาจโลก

12 ธันวาคม 2564Jitta RankingJitta Wealth

ทำไมใครๆ ก็ลงทุนใน ‘สหรัฐอเมริกา’ ศูนย์กลางการเงินของโลกแห่งนี้…มีมนต์เสน่ห์อะไร ถึงดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกได้

ใครๆ ก็รู้ว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดหุ้นมหาอำนาจโลก ที่ไม่ว่าจะเผชิญวิกฤตหลายครั้ง สุดท้ายก็พลิกฟื้นกลับมาเติบโต…ทะยานได้ต่อ 

นั่นก็เป็นเพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก เจ้าของแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆ ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ ทั้งนั้น รวมไปถึงเทคโนโลยีต่างๆ ที่คุณใช้ในชีวิตประจำวัน…พัฒนามาจากบริษัทสัญชาติอเมริกัน

บทความที่แล้ว ทีมงาน Jitta Wealth พาคุณไปทำความรู้จักกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking ที่เปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกา จีน และเวียดนาม ไฮไลต์จุดเด่นของแต่ละประเทศ หากคุณยังไม่แน่ใจว่า…เลือกลงทุนประเทศไหนดี 

บทความนี้…ไปทำความรู้จัก ‘สหรัฐอเมริกา’ มหาอำนาจและศูนย์กลางทางการเงินของโลกให้มากขึ้น เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและโอกาสลงทุนเพื่ออนาคต และแนะนำ 5 บริษัท ‘หุ้นดีราคาถูก’ ที่แพลตฟอร์ม Jitta คัดสรรมาจัดพอร์ตลงทุนระยะยาว สไตล์ VI (Value Investing) ให้คุณ

‘สหรัฐอเมริกา’ มหาอำนาจและศูนย์กลางทางการเงิน

‘สหรัฐอเมริกา’ เป็นตลาดหุ้นพัฒนาแล้วที่มีมาร์เก็ตแคปสูงที่สุดในโลก นับถึงสิ้นปี 2563 อยู่ที่ 40.74 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หากนับจนถึง ณ สิ้นเดือนกันยายน อยู่ที่ 48.57 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ 

นั่นหมายความว่า ผ่านมาได้ 9 เดือน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและวิกฤต Covid-19 ที่ยังคงอยู่ มาร์เก็ตแคปตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเติบโตได้ถึง 19.22%

ตลาดหุ้นหลักในสหรัฐฯ ได้แก่ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) และตลาดหุ้น Nasdaq นอกจากนี้ยังมีตลาดหุ้นอื่นๆ เช่น Chicago Board Options Exchange (CBOE) เป็นตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ หรือตลาดหุ้น BATS (Better Alternative Trading System) ที่มี ETF (Exchange Traded Fund) หลายกองซื้อขายในตลาดนี้ด้วย

ดัชนีหลักที่นักลงทุนทั่วโลกติดตามกัน ได้แก่ S&P500 DJIA NASDAQ และ NYSE 

ในความเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ‘สหรัฐอเมริกา’ สะท้อนภาพระบบทุนนิยมที่แข็งแกร่ง ศูนย์กลางทางการเงินหนุนให้มีธุรกิจและสตาร์ตอัปใหม่ๆ แจ้งเกิดตลอดเวลา 

ธุรกิจที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นหลัก คือ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่ก่อนวิกฤต Dot Com จนฟองสบู่แตกช่วงปี 2540-2543 ก็ยังพลิกฟื้นกลับมาได้ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา

ปัจจุบันบริษัทสัญชาติอเมริกันที่มีมาร์เก็ตแคปสูงสุด 10 อันดับแรกในดัชนี S&P500 ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ที่มีมูลค่ากิจการระดับเมกะแคปใกล้ๆ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ บางบริษัทมาร์เก็ตแคปทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว เช่น Alphabet (Google) Amazon Apple Meta (Facebook) Nvidia และ Microsoft

นอกเหนือจากการเป็นบิ๊กเทคสัญชาติอเมริกันแล้ว บริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในโลก 100 อันดับแรก มากกว่าครึ่งอยู่ในสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ารวม 20.55 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 65% ของมาร์เก็ตแคปรวม 100 บริษัททั่วโลก

ความน่าสนใจของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ คือ ความเป็นบริษัทระดับโลกในเกือบทุกๆ กลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ได้ทำธุรกิจและมีรายได้จากในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ยังขยายกิจการไปทั่วโลก ล้วนเป็นแบรนด์สินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง แยกภาคอุตสาหกรรมตามเกณฑ์ Global Industry Classification Standard (GICS) เช่น

  • สินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ Coca-Cola และ Pepsi (เครื่องดื่ม) Procter & Gamble (สินค้าครัวเรือน)
  • สินค้าฟุ่มเฟือย ได้แก่ Ford GM และ Tesla (รถยนต์) Starbucks และ McDonald’s (ร้านอาหาร) Amazon (อีคอมเมิร์ซ) Nike (เครื่องนุ่งห่ม)
  • บริการการสื่อสาร ได้แก่ Alphabet (สื่อดิจิทัลและบริการ) Walt Disney (ความบันเทิง)
  • เทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ Apple (ฮาร์ดแวร์) Microsoft (ซอฟต์แวร์) Nvidia (เซมิคอนดักเตอร์) Visa Paypal และ MasterCard (บริการ IT)
  • อุตสาหกรรม ได้แก่ UPS และ FedEX (โลจิสติกส์) Avis Budget (ถนนและราง)
  • บริการสุขภาพ ได้แก่ Johnson & Johnson และ Pfizer (ยา)

นี่คือ ตัวอย่างบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีรายได้จากทุกมุมโลก จากการขยายธุรกิจเพื่อขายสินค้าและบริการ ซึ่งคุณคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้จักบริษัทเหล่านี้ 

สรุปได้ว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกขับเคลื่อนด้วยหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และแหล่งรวมหุ้นบริษัทระดับโลก สะท้อนภาพความเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและศูนย์กลางตลาดการเงินการลงทุนของโลกใบนี้ด้วย

ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังรักษาความเป็นเบอร์ 1 ด้วยขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่า GDP ณ สิ้นปี 2563 อยู่ที่ 20.93 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงแม้จะเผชิญผลกระทบจาก Covid-19 อย่างหนัก แต่ก็ฟื้นตัวกลับมาเติบโตได้ดีในปี 2564 เช่นเดียวกัน Deloitte คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้ายังสดใส จะมีการเติบโตได้ดีกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาด

ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เจ็บตัวจากวิกฤต Covid-19 นานมากนัก และพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นได้แข็งแกร่ง ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง 2563 เป็นต้นมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหุ้นเทคโนโลยีหลายสิบหลายร้อยบริษัทแทบไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤต กลับกลายเป็นได้รับอานิสงส์จากการใช้งานเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งยังมีอีกหลายๆ บริษัทที่ได้รับผลกระทบระยะสั้นจาก Covid-19 และยังมีผลประกอบการดีมาจนถึงปัจจุบัน

ความเป็นตลาดหุ้นพัฒนาแล้วอย่าง ‘สหรัฐอเมริกา’ ที่มีความแข็งแกร่งมาก อาจจะถูกมองว่า ยังมี ‘หุ้นดีราคาถูก’ หลงเหลืออยู่หรือเปล่า นี่คือ หน้าที่ของแพลตฟอร์ม Jitta ที่จะแสกนหุ้นมากกว่า 4,700 บริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อหาหุ้นพื้นฐานดีๆ และยังมีราคาไม่แพง มาจัดพอร์ต Jitta Ranking สหรัฐอเมริกาให้คุณ

Jitta Ranking

ส่อง 5 หุ้นดีราคาถูกสำหรับ ‘ลงทุน Jitta Ranking’ สหรัฐอเมริกา

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปรียบเสมือน ‘ศูนย์กลางการเงินของโลกที่ไม่มีใครทัดเทียม’ แหล่งรวบรวมบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่คุณรู้จักเป็นอย่างดี จากทุกเซ็กเตอร์ ทุกอุตสาหกรรม มีให้คุณลงทุนได้ในประเทศเดียว 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมาก และคุณ…ในฐานะนักลงทุนสามารถเชื่อมั่นในการกำกับดูแล คุณภาพกิจการ เงื่อนไขการรายงานงบการเงิน และมาตรฐานการทำบัญชี ที่มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ 

ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก และมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และตลาดหุ้นเบอร์ 1 ของโลก ก็ยังมี ‘หุ้นดีราคาถูก’ อีกมากมาย ที่ตรงตามหลักการลงทุนสไตล์ Warren Buffett ที่ว่า ‘Buy a wonderful company at a fair price’ (ลงทุนในธุรกิจที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม)

ทีมงาน Jitta Wealth ขอยกตัวอย่าง 5 บริษัท เป็น ‘หุ้นดีราคาถูก’ อันดับต้นๆ ที่อาจจะเข้ามาอยู่ในพอร์ตลงทุน Jitta Ranking สหรัฐอเมริกาของคุณ 

Unity Bancorp

บริษัทโฮลดิ้งของ Unity Bank เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการเต็มรูปแบบ ธนาคารระดมเงินฝากจากประชาชนทั่วไป และให้สินเชื่อหลากหลายประเภท เช่น สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อผู้บริโภค และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยธนาคารได้ขยายบริการครอบคลุมรัฐนิวเจอร์ซีย์ และ Lehigh Valley รัฐเพนซิลเวเนีย มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น Nasdaq อยู่ที่ 267.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี ของ Unity Bancorp

งบการเงินรายได้รวม% เปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ% เปลี่ยนแปลง
256370.4+8.23%23.6-0.04%
256265.0+7.60%23.7+7.91%
256160.4+15.17%21.9+70.01%

ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Farmers National Banc

ธนาคารเก่าแก่ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2430 ให้บริการทางการเงินแบบครบวงจร มีเป้าหมายจะเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินชั้นนำ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับ ผู้ใช้บริการ ผู้ถือหุ้น และชุมชน ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจจนเติบโตขึ้นกว่า 41 สาขาในรัฐโอไฮโอและรัฐเพนซิลเวเนีย ธนาคารยังคงพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการอยู่เสมอ มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น Nasdaq อยู่ที่ 516.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี ของ Farmers National Banc

งบการเงินรายได้รวม% เปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ% เปลี่ยนแปลง
2563124.2+14.48%41.9+17.10%
2562108.5+7.46%35.8+9.80%
2561101.0+7.05%32.6+43.41%

ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

First American Financial

บริษัทให้บริการทางการเงินและการประกันภัย รวมไปถึงการชำระเงินแก่อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการจำนอง ธุรกิจหลักประกอบด้วย การประกันภัยกรรมสิทธิ์ ประกันภัยทรัพย์สิน และประเมินมูลค่าผลิตภัณฑ์และบริการ เป็นสถาบันการเงินที่แข็งแกร่ง และให้ก่อตั้งมายาวนานกว่า 130 ปี มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น NYSE อยู่ที่ 8,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี ของ First American Financial

งบการเงินรายได้รวม% เปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ% เปลี่ยนแปลง
25637,087+14.26%696.4-1.55%
25626,202+7.90%707.4+49.09%
25615,748-0.42%474.5+12.16%

ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Northeast Bank

ธนาคารที่ให้บริการแบบครบวงจร โดยก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2415 ทางธนาคารได้ให้รัฐบาลกู้งบดุล และเข้าซื้อกิจการระดับประเทศ โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อพัฒนาชีวิตของประชากรสหรัฐอเมริกาให้ดีขึ้น รวมไปถึงการบริจาคในการกุศล ธนาคารให้ความสนับสนุนแก่เยาวชนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น Nasdaq อยู่ที่ 276.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี ของ Northeast Bank 

งบการเงินรายได้รวม% เปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ% เปลี่ยนแปลง
2564140.5+90.73%71.5+214.48%
256373.7+9.75%22.7+63.76%
256267.1+13.92%13.9-14.12%

ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ หมายเหตุ: ปีงบประมาณ กรกฎาคม – มิถุนายน

Mercantile Bank Corporation

ธนาคารให้บริการแก่ธุรกิจ บุคคลและหน่วยงานของรัฐ มีสินเชื่อมากมายเพื่อตอบสนองตามความต้องการ เช่น สินเชื่อเพื่อการค้า การก่อสร้าง การจำนอง และสินเชื่อผู้บริโภค ทั้งมีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน ปัจจุบันได้ขยายธุรกิจจนมีสำนักงาน 44 แห่งในสหรัฐฯ และพัฒนาระบบภายในให้ทันสมัยอยู่เสมอ  มีมาร์เก็ตแคปในตลาดหุ้น Nasdaq อยู่ที่ 533.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

งบการเงินย้อนหลัง 3 ปี ของ Mercantile Bank Corporation

งบการเงินรายได้รวม% เปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ% เปลี่ยนแปลง
2563153.4+4.23%44.1-10.75%
2562147.1+6.63%49.5+17.69%
2561138.0+10.93%42.0+34.37%

ที่มา: Jitta.com ณ 1 ธันวาคม 2564 หน่วย: ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จะเห็นได้ว่า 5 บริษัท ‘หุ้นดีราคาถูก’ ของ Jitta Ranking สหรัฐอเมริกาอยู่ในกลุ่มภาคการเงิน (Financials) เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นมีขนาดใหญ่ นอกจากจะมีธนาคารขนาดใหญ่ระดับประเทศแล้ว ยังมีธนาคารขนาดกลางและเล็กที่มีความแข็งแกร่งในระดับรัฐและมลรัฐด้วย

นอกจากนี้ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีการฟื้นตัว ภาคการเงินมักจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ เพราะความต้องการด้านสินเชื่อในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการบริการจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนการกู้เงินในภาคสถาบันการเงินยังไม่สูงมาก เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยังอยู่ที่ 0.00-0.25% 

ส่งผลให้ 5 สถาบันการเงินที่เรายกตัวอย่างมา มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin -NIM) เป็นมาตรวัดรายได้ดอกเบี้ยของธนาคารเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับผู้ฝากเงิน อยู่ในระดับสูง มีประสิทธิภาพในการทำกำไรให้แก่ธนาคาร

ไม่เพียงเท่านั้น แต่ละสถาบันการเงินมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (Selling, General, Administrative  Expenses – SG&A) ต่อยอดขายลดลงเรื่อยๆ ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิในช่วงที่ผ่านมาเติบโต และแพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นของ Jitta ก็ประเมินว่า มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต

นี่คือ ภาพรวมของความน่าสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นมหาอำนาจและศูนย์กลางทางการเงินของโลก และ 5 บริษัท ‘หุ้นดีราคาถูก’ ของสหรัฐฯ ที่ทีมงาน Jitta Wealth รวบรวมมาให้คุณได้รู้จัก และเป็นโอกาส ‘ลงทุน Jitta Ranking’ สำหรับคุณ 

ถ้าเป้าหมายพอร์ตลงทุนของคุณ คือ เศรษฐกิจทุนนิยมเต็มขั้น ตลาดหุ้นพัฒนาแล้วขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มาตรฐานทางการเงินโปร่งใส ตลาดหุ้นมีพลวัตการเติบโตของบริษัทระดับโลก ศูนย์รวมบริษัทและสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับตลาดผู้ใช้งานทั่วโลก Jitta Ranking สหรัฐอเมริกา คือ คำตอบสุดท้าย 

แพลตฟอร์มวิเคราะห์หุ้นของ Jitta จะไม่ได้เฟ้นหามูลค่ากิจการ แต่ AI และอัลกอริทึมที่พัฒนาขึ้นมา จะเจาะลึกลงไปในงบการเงินย้อนหลัง 10 ปีของบริษัทนั้น และวิเคราะห์อีกหลายๆ ปัจจัย เช่น รายได้ อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรจากการดำเนินงาน งบลงทุน SG&A ต่อยอดขาย และการจ่ายเงินปันผล แล้วนำมาจัดอันดับ ‘หุ้นดีราคาถูก’ ให้คุณได้เป็นเจ้าของกิจการที่ดี และได้ลงทุนในราคาเหมาะสม

พอร์ตลงทุน Jitta Ranking สหรัฐอเมริกา กระจายความเสี่ยงลงทุนใน 5-30 บริษัท และมีการรีวิวพอร์ตทุกไตรมาส ตามการรายงานงบการเงินของแต่ละบริษัท 

หากบริษัทที่ลงทุนอยู่ มีงบการเงินที่ส่งสัญญาณว่า มีแนวโน้มเติบโตลดลงหรือไม่เติบโต รวมไปถึง AI และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม Jitta มีการปรับอันดับ ‘หุ้นดีราคาถูก’ ระบบปรับพอร์ตอัตโนมัติจะจัดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตให้เหมาะ ทำการขายหุ้นเดิม และซื้อหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตเข้ามาในพอร์ต คุณจึงมั่นใจได้ว่า พอร์ตลงทุนของคุณจะมีหุ้นพื้นฐานดี ราคาไม่แพงอยู่เสมอ

หากคุณต้องการรู้จัก Jitta Wealth รวมไปถึงกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking มากขึ้น คุณสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลได้เว็บไซต์ https://jittawealth.com/jitta-ranking หรือสอบถามเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนได้ที่ Line ID: @JittaWealth


​​กองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth บริหารจัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด ผู้บุกเบิกสตาร์ตอัป WealthTech สัญชาติไทยรายแรก ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ใบอนุญาตเลขที่ ลค-0105-01

ผลตอบแทนในอดีต ไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคต การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนต่างประเทศอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน


อ่านบทความ ‘ลงทุน Jitta Ranking’ ที่เกี่ยวข้อง

จัดพอร์ต ‘หุ้นเมกะแคป’ ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เกาะเทรนด์เศรษฐกิจฟื้น

5 หุ้นเทคสหรัฐฯ ปี 2564 พร้อมดันพอร์ต Jitta Ranking – U.S. Tech เติบโต


อ้างอิง

  1. Total Market Value of U.S. Stock Market https://siblisresearch.com/data/us-stock-market-value/
  2. Largest Companies by Market Cap https://companiesmarketcap.com/
  3. The top 100 companies of the world: the US vs everyone else https://www.weforum.org/agenda/2021/07/top-100-companies-usa-china-money-capital-market/ 
  4. United States Economic Forecast https://www2.deloitte.com/us/en/insights/economy/us-economic-forecast/united-states-outlook-analysis.html 
  5. What’s the Difference Between Emerging and Developed Markets? https://www.acorns.com/money-basics/what-s-the-difference-between-emerging-and-developed-markets-/
  6. Countries Trading The Most In Stocks https://www.worldatlas.com/articles/countries-trading-the-most-stocks.html
  7. D.R. Horton America’s Largest Homebuilder https://www.drhorton.com/our-story
บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
1111/9-10 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900



สงวนลิขสิทธิ์ © 2024 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด
เนื้อหาทั้งหมดบนเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด (“Jitta Wealth”) ผู้บริหารจัดการบัญชีกองทุนส่วนบุคคล Jitta Wealth ที่ได้รับใบอนุญาตบริหารจัดการกองทุนประเภท ค เลขที่ ลค-0105-01 และดำเนินการภายใต้การกำกับ ดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) Jitta Wealth ให้บริการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับผู้ลงทุนรายย่อย ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนในตลาดทุน โดยใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์หุ้นและกลยุทธ์การลงทุนที่จัดทำโดยบริษัทจิตตะ ดอท คอม จำกัด (“Jitta.com”) บริหารจัดการให้แบบอัตโนมัติ เพื่อผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าดัชนีตลาด การลงทุนมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียกำไรหรือเงินต้น กลยุทธ์การลงทุนของ Jitta Wealth ใช้ข้อมูลวิเคราะห์หุ้นของ Jitta.com ซึ่งคิดคำนวณจากข้อมูลในอดีต อัตราผลตอบแทน การเปรียบเทียบหรือการจัดอันดับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนบนเว็บไซต์นี้เป็นสมมุติฐานทางสถิติจากข้อมูลที่มี เพื่อใช้ประกอบการอธิบายรายละเอียดบริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้รับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ สถานการณ์ในโลกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะแง่บวกหรือแง่ลบ สามารถส่งผลกระทบ ต่อทั้งอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจ และอาจทำให้พอร์ตหุ้นที่มีการกระจายความเสี่ยงค่อนข้างมากแล้ว ประสบความผันผวนด้านราคาได้ Jitta Wealth ได้รับอนุญาตให้บริหารจัดการกองทุนเพื่อช่วยผู้ลงทุนบรรลุเป้าหมายด้านการเงินผ่านการ ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท หุ้นโดยไม่มีเจตนาแนะนำความเหมาะสมของกลยุทธ์การลงทุนใดๆ แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมายการลงทุนส่วนตัว และค่าธรรมเนียมต่างๆ ของ Jitta Wealth ก่อนลงทุน
“Jitta Wealth” เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด