เมื่อการตั้งใจฟังเสียงของคนรักพา Peter Lynch ค้นพบ ‘หุ้น 10 เด้ง’

โอกาสลงทุนอยู่รอบตัวเราเสมอ เพราะแม้แต่คนที่ไม่เคยลงทุนมาก่อนก็อาจรู้จักบริษัทใดบริษัทนึงเป็นอย่างดี ผ่านการใช้งานสินค้าของบริษัทนั้นในชีวิตประจำวัน

บางครั้งหากคุณลองสังเกตสินค้าที่คุณใช้งานอยู่ทุกวัน จะพบว่ามีหุ้นหลายบริษัทที่คุณนำไปวิเคราะห์พื้นฐานของธุรกิจเพิ่มเติมได้ ไม่แน่ว่าหุ้นเหล่านั้นอาจกลายมาเป็น ‘หุ้นเด้ง’ ในพอร์ตลงทุนของคุณก็ได้

ยกตัวอย่างเช่น คุณมักไปเดินห้างสรรพสินค้าในเครือ Central จากนั้นคุณเกิดท้องร้องจนต้องไปกินพิซซ่าแสนอร่อยในเครือ MINT หลังจากนั้นคุณจำได้ว่าหวานใจของคุณชอบบ่นว่าเครื่องสำอางค์ที่บ้านหมดแล้ว คุณเลยแอบไปส่องเครื่องสำอางค์แบรนด์ KARMART เพราะจำแบรนด์ที่แฟนของคุณใช้ได้ 

เมื่อคุณได้เลือกซื้อเครื่องสำอางค์เสร็จแล้ว คุณนึกได้ว่าอีกไม่นานใกล้จะวันเกิดแฟนแล้ว ต้องหาอะไรไปเซอไพรส์สักหน่อย คุณจึงไปซื้อเค้กที่ร้าน S&P เพื่อนำมาเซอร์ไพรส์แฟนของคุณ หลังจากนั้นคุณก็นั่งรถไฟฟ้า BTS กลับบ้านอย่างสบายใจ

จากเรื่องนี้ จะเห็นว่าหากลองสังเกตไปรอบตัว คุณก็จะได้ 5 หุ้นมาวิเคราะห์เพิ่มแล้ว และนั่นคือโอกาสลงทุนที่หาได้ง่ายจากชีวิตประจำวันของคุณเอง เพื่อขยายโอกาสการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น

คุณอาจรู้สึกว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายเกินไปหน่อย แต่การลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้ท่ายากเสมอไป และเชื่อไหมครับว่าผู้จัดการกองทุนบางคนก็ใช้วิธีนี้

เพราะครั้งนึงผู้จัดการกองทุนในตำนานอย่าง Peter Lynch ได้พบเจอกับ ‘หุ้น 10 เด้ง’ จากการสังเกตสินค้าที่ภรรยาของเขาซื้อมา และมันกลายเป็นหุ้นที่เขาไม่มีวันลืมจนถึงทุกวันนี้

ตำนาน ‘หุ้นถุงน่อง’ ของ Lynch

เซียนหุ้นส่วนใหญ่มักจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับหุ้นที่ซื้ออยู่เสมอ และหนึ่งในเรื่องเล่าของ Lynch คือการได้รู้จักกับหุ้นถุงน่องยี่ห้อ L’eggs ที่ถูกบรรจุมาในไข่พลาสติกของแบรนด์ Hanes 

จุดเริ่มต้นของการค้นพบหุ้นตัวนี้เกิดขึ้นจาก Carolyn Lynch ผู้เป็นภรรยาได้ซื้อถุงน่องดังกล่าวมา และพูดชมถุงน่องกับสามีของเธอว่า “มันเป็นถุงน่องที่ใส่ได้พอดี แถมไม่ย้วยง่ายเหมือนถุงน่องแบรนด์อื่น”

แน่นอนว่า Peter Lynch ไม่ได้ซื้อหุ้นทันทีหลังจากที่ภรรยาของเขาพูดถึง แต่ Lynch ได้วิเคราะห์หุ้นตามแนวทางของเขาและพบกับข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย เช่น ผู้หญิงส่วนใหญ่จะไปร้านขายยาหรือซูเปอร์มาร์เก็ตทุกสัปดาห์ แต่จะไปร้านค้าเฉพาะของผู้หญิงหรือห้างสรรพสินค้าทุกๆ 6 สัปดาห์

รวมถึงการที่ L’Eggs เป็นถุงน่องคุณภาพดีระดับห้างสรรพสินค้ารายแรกที่วางขายในซูเปอร์มาร์เก็ต ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่ต้องการหาซื้อถุงน่องคุณภาพดีได้มากขึ้น จนทำให้ยอดขายโตระเบิด

แต่เพื่อความละเอียดยิ่งขึ้นก่อนที่ Lynch จะซื้อหุ้น Hanes เขาได้ไปเดินซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยตัวเองและซื้อถุงน่องมากมายหลายแบรนด์มากว่า 48 คู่ เพื่อให้พนักงานที่ออฟฟิศของเขา 

สิ่งที่ Lynch ต้องการจะรู้ก็คือ คุณภาพถุงน่องแบรนด์อื่นที่วางขายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตนอกเหนือจากแบรนด์ Hanes เป็นอย่างไร แต่หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานทุกคนกลับมาบอกกับเขาว่า “คุณภาพของถุงน่องแบรนด์อื่นเทียบกับของ Hanes ไม่ได้เลย”

Lynch รู้ทันทีว่า Hanes จะเป็นผู้ชนะในตลาดถุงน่อง เขาจึงตัดสินใจลงทุนหุ้นดังกล่าวเป็นสัดส่วนสูงมากในกองทุน Fidelity Magellan ที่เขาบริหาร และหุ้น Hanes ก็ได้กลายเป็นหุ้น 10 เด้งในตำนานของเขาอีกตัวนึง

หลังจากนั้น Lynch เล่าว่าถุงน่อง L’Eggs ถูกซื้อกิจการโดย Consolidated Foods ซึ่งปัจจุบันคือบริษัท Sara Lee Corporation โดย Lynch บอกว่าหากเขาไม่ขายหุ้นดังกล่าวเร็วเกินไป มันอาจจะกลายเป็นหุ้น 30 เด้งไปแล้ว

เรื่องราวของการลงทุนในหุ้น Hanes ถูกหยิบยกมาเล่าอีกหลายครั้งในหนังสือต่างๆ ของ Lynch สิ่งนึงที่เขาต้องการเล่าให้ทุกคนฟังคือเรื่องราวการค้นพบหุ้นตัวนี้ผ่านภรรยาของเขาเอง ซึ่งคุณเองก็สามารถหาโอกาสลงทุนแบบนี้ได้เช่นกัน 

เรื่องราวของ Mr. & Mrs. Lynch

นอกจากโอกาสการลงทุนที่คุณสามารถเรียนรู้จาก Peter Lynch แล้ว เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเดือนแห่งความรัก ในบทความนี้เราขอเล่าเรื่องราวของ Mr. & Mrs. Lynch ที่จะทำให้คุณเห็นการอุทิศตนให้ครอบครัวและผู้อื่นของทั้งคู่

เรื่องราวของ Lynch ส่วนใหญ่มักอยู่ในช่วงที่เขาบริหารกองทุน Fidelity Magellan ซึ่งหลังจากนั้นไม่ค่อยมีใครรู้ภาคต่อสักเท่าไรว่า Peter Lynch ยังลงทุนและทำผลงานชนะตลาดได้อย่างต่อเนื่องอยู่หรือไม่

แต่ในปี 2562 นิตยสาร Barron’s ได้กลับไปสัมภาษณ์ Peter Lynch อีกครั้งเกี่ยวกับชีวิตหลังจากที่เกษียณออกมาใช้ชีวิตกับครอบครัว โดยหนึ่งในคำถามที่น่าสนใจที่สุดในบทสัมภาษณ์นี้คือ “คุณยังสามารถเอาชนะตลาดในระยะยาวได้อยู่หรือไม่”

Lynch ตอบแบบอ้อมๆ โดยการพูดถึงการนำเงินในบัญชีเกษียณอายุของภรรยามาลงทุน จนเงินงอกเงยจาก 3,750 ดอลลาร์สหรัฐไปเป็น 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อทำให้ทุกคนรู้ว่าฝีมือในการลงทุนของเขายังมหัศจรรย์เหมือนเดิม

โดยบัญชีนี้ เริ่มจากที่ภรรยาของเขาใส่เงินเข้าไปปีละ 750 ดอลลาร์สหรัฐระหว่างปี 2517-2521 (5 ปี) จนมีเงินทั้งหมด 3,750 ดอลลาร์สหรัฐในบัญชี หลังจากนั้น Lynch ก็นำเงินก้อนนี้ไปลงทุนจนกลายเป็น 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเวลา 40 ปี คิดเป็น ผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นที่ 22.09% ต่อปี หากเทียบกับดัชนี S&P 500 ที่ทำผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยได้ประมาณ 11% ต่อปี ถือว่า Lynch ชนะตลาดไปแบบขาดลอย

แต่ในปี 2558 Carolyn Lynch ได้เสียชีวิตลงจากโรคร้าย เธอมีส่วนร่วมมากมายในการใช้ชีวิตร่วมกับ Peter Lynch ทั้งคู่ได้ก่อตั้งมูลนิธิร่วมกันในชื่อ Lynch Foundation ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักกลุ่มแรกๆ ขององค์กรการกุศลอย่าง ‘Teach for America’ ‘AmeriCares’ และ ‘Partners in Health’

หากคุณติดตามบทสัมภาษณ์ต่างๆ ของ Peter Lynch จะเห็นว่าเขามักเล่าเรื่องภรรยาของเขาอยู่เสมอ และอย่างที่หลายคนรู้ นอกจาก Lynch จะเป็นผู้จัดการกองทุนที่มหัศจรรย์แล้ว เขายังเป็นนักเขียนที่ยอดเยี่ยมจนหนังสือของเขาขายดีระดับโลก

แต่เรื่องที่น้อยคนรู้คือ กำไรทั้งหมดที่ได้จากการขายหนังสือทั้ง 3 เล่ม ประกอบไปด้วย ‘One Up On Wall Street’ ‘LEARN to EARN’ และ ‘Beating the Street’ ถูกนำไปบริจาคให้กับการกุศลผ่านการตัดสินใจร่วมกันจากทั้งเขาและภรรยา

Carolyn Lynch มีอิทธิพลต่อชีวิตของ Peter Lynch มาก รวมไปถึงเรื่องการลงทุนด้วยเช่นกัน  เพราะในหลายครั้งที่เขาให้สัมภาษณ์เรื่องการลงทุน เขาจะกล่าวถึงภรรยาเสมอ 

สิ่งนึงที่เราอยากให้คุณเรียนรู้จาก Peter Lynch ไม่ใช่แค่ในเรื่องการลงทุนเท่านั้น เขายังเป็นคนที่ใช้ชีวิตเพื่อครอบครัวอย่างแท้จริง เขาเป็นทั้งสุดยอดสามี สุดยอดคุณพ่อ สำหรับภรรยาและลูกๆ ของเขาเสมอ

เราหวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณได้พบโอกาสลงทุน ที่คุณอาจจะหาได้จากในชีวิตประจำวันของคุณ หรือจากคนใกล้ตัวของคุณเอง และอาจทำให้คุณเข้าใจมากยิ่งว่า การลงทุนไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด 

หากคุณอ่านบทความนี้แล้วถูกใจอย่าลืม กรอกอีเมลสมัครรับข่าวสารบนหน้าเว็บไซต์ https://passiveway.com/ จะได้ไม่พลาดความรู้ดีๆ แบบเข้าใจง่ายที่เราตั้งใจเรียบเรียงมาเสิร์ฟให้ถึงมือคุณ 

ลงทะเบียนรับความรู้การลงทุน passive